10 อันดับ ร้านเคลือบแก้ว ที่น่าสนใจและน่าทดลอง

การเคลือบแก้ว (Glass Coating) เป็นการที่เรานำน้ำยาสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของ ซิลิกา (Silica) มาเคลือบที่ผิวรถเพื่อทำการปกป้องผิวรถของเรา โดยระดับความหนาของชั้นเคลือบ มีตั้งแต่ 1-9H ซึ่ง 9H คือสูงสุด โดยที่การเคลือบแก้วรถนี้จะทำให้ผิวรถเราเป็นประกายเงางาม และยังเป็นเกราะป้องกันอีกชั้นนึงของแล็คเกอร์ และสีของรถยนต์เรา รวมทั้งยังสามารถทนรอยขีดข่วน ในระดับบาง ๆ ได้อีกด้วย

ในเมื่อทราบถึงผลลัพธุ์ที่จะได้รับจากการทำเคลือบแก้วแล้ว สำหรับเจ้าของรถยนต์ เราขอแนะนำให้ลองมองหาศูนย์ขัดเคลือบสีรถยนต์ หรือ ร้านเคลือบแก้วรถยนต์โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ที่กำลังมองหา

---

---

ร้านเคลือบแก้วสำคัญอย่างไร

การที่มีร้านเคลือบแก้วไว้คอยบริการผู้ใช้รถยนต์นั้น จะช่วยให้เจ้าของรถยนต์ที่รักรถ รู้สึกสบายใจว่ารถยนต์ได้รับการดูแล ปกป้องให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และยังเป็นหน้าตาของเจ้าของรถยนต์นั้น ๆ อีกด้วย

ดังนั้นเรามาศึกษาถึงข้อดีของการเคลือบแก้ว เพื่อจะได้ตัดสินใจว่า ควรเคลือบแก้วที่ไหนดี และมองหาที่มีคุณภาพเคลือบแก้วราคาถูก  ข้อดีของการเคลือบแก้ว มีอยู่มากมาย เช่น

• เหมาะสำหรับรถที่เป็นรอยง่าย
• ป้องกันและรักษาสีรถให้ดูสดใหม่และวาวฉ่ำ
• ช่วยลดรอยขีดข่วน
• ป้องกันแสง UV
• ป้องกันคราบเปื้อนต่าง ๆ
• การเคลือบแก้วครั้งนึงสามารถอยู่ได้ประมาณ 2-3 ปี
• ทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาล้างรถบ่อย ๆ

---

10 อันดับร้านเคลือบแก้วราคาเป็นมิตรในโซนกรุงเทพและปริมณฑล

ร้านเคลือบแก้วที่เรายกมาแนะนำในที่นี้มีทั้งหมด 10 แห่ง แต่ละแห่งจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก็ขึ้นกับว่าเจ้าของรถยนต์มองหาร้านเคลือบแก้วราคาถูก หรือ ร้านเคลือบแก้วที่ไหนดีที่สะดวกแก่การเดินทางหรือ ร้านเคลือบแก้วที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เป็นต้น

1.ร้านเคลือบแก้ว Klean Square

ร้านคลีนสแควร์เป็นศูนย์มาตรฐานความงามรถยนต์ชั้นนำของเมืองไทย ให้บริการรถครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี พร้อมศูนย์บริการครอบคลุมกว่า 70 สาขาทั่วประเทศไทย 

มีให้บริการรถยนต์ เช่น ทำความสะอาดรถโดยใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น ล้างรถด้วยโฟมมุก ขัดสีปรับสภาพผิวสีรถยนต์ ติดแผ่นฉนวนกันความร้อน ฆ่าเชื้อเบคทีเรียด้วยระบบโอโซน การทำบลูสตรีมและอบไอน้ำรถยนต์

และอีกบริการที่สำคัญ คือ บริการเคลือบรถ เคลือบสี ทั้งเคลือบแก้วด้วยนวัตกรรมการเคลือบแก้ว คริสตัลแท้ GLANZ 9H เพื่อการปกป้องที่ดีกว่าและให้ความเงางามที่เด่นชัดกว่า สร้างชั้นฟิล์มแก้วที่ให้ความหนาถึง 22 ไมครอน ป้องกันสีรถได้นานนัปี ความแข็งระดับ 9H (9H Hardness)

2.ร้านเคลือบแก้ว CTS

ร้าน CTS จัดเป็นอันดับต้น ๆ ที่บุกเบิกตลาดเคลือบแก้วในไทย มีผลงานการเคลือบรถยนต์หรูมาเยอะแล้วเช่น Ferrari, Porsche, Maserati และ Rolls – Royce

ประสบการณ์การเคลือบแก้วของร้านนี้มาจากการศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น  นอกจากเคลือบแก้วแล้ว บริษัทยังมีบริการอื่น ๆ เช่น พ่นเคลือบเบาะภายในรถยนต์ ฟิล์มกันสะเก็ดหิน เป็นต้น  ราคาแต่ละแพ็คเกจของร้านCTS จะค่อนข้างสูง แต่ก็สมคุณภาพที่ได้รับ

3.ร้านเคลือบแก้ว Wisdom Car Detailing & Hotel Garage

เป็นร้านที่มีบริการรถแบบครบวงจร ผลิตภัณฑ์เคลือบรถก็มีอยู่ 2 ประเภท จากประเทศญี่ปุ่น และแบรนด์Adams ชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้ง 2 แบบใช้ได้นานถึง 5-7 ปีขึ้นกับการใช้งานล้วน ๆ 

ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ให้ความเงาวับเหมือนกับรถใหม่ สามารถลดการเกิดคราบน้ำ, ป้องกันคราบสกปรกจากขี้นกแมลง ยางไม้ เป็นต้น, ห้องกันรอยขีดข่วนขณะล้างรถ, ป้องกันแสง UV ที่ส่งผลให้รถหมอง รวมถึงน้ำเป็นเม็ดไม่เกาะสีรถ

4.ร้านเคลือบแก้ว G-Zox

ร้าน G-Zox เป็นร้านเคลือบแก้วขนาดใหญ่ซึ่งมีสาขาแม่อยู่ที่ญี่ปุ่น  ดังนั้นน้ำยาเคลือบแก้วที่ใช้ถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง จึงได้รับความไว้วางใจจาก Super Car หลากหลายแบรนด์ เช่น Lamborghini, Ferrari และ Porsche

ที่ร้านยังมีห้องอบอินฟาเรดออกแบบโดยทีมงานจากประเทศญี่ปุ่น ที่ช่วยให้น้ำยาเคลือบเกาะชั้นผิวของตัวถังรถได้อย่างยาวนานและค่อนข้างทนทาน

5.ร้านเคลือบแก้ว TPS The Perfect Shine

เป็นร้านเคลือบแก้วที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะมีช่องทำ Glass Coating จำนวนกว่า 5 ข่องไว้คอยบริการลูกค้าพร้อมห้องอบสีอินฟาเรดในศูนย์เดียวกัน ทางร้านมีหลายแพคเกจ โดยเลือกใช้น้ำยาเคลือบแก้วนำเข้าจากญี่ปุ่นและเยอรมนี ที่เน้นปกป้องสีรถและป้องกันรอยขีดข่วนขนแมว ด้วยผ้าเช็ดเฉพาะส่วน

นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการซักเบาะ ซักพรม ล้างห้องเครื่อง ขัดกระจก ขัดล้อแม็ก รวมถึงขจัดกลิ่นอับในห้องโดยสาร โดยเฉพาะหน้าฝน

6.ร้านเคลือบแก้ว 55 Wash Car Detailing

เป็นร้านเคลือบแก้วที่ได้รับความนิยมมาก มีสาขาให้บริการกว่า 4 สาขา ที่ร้านเลือกใช้น้ำยาเคลือบแก้วแบรนด์ดังอันดับต้นของโลก เช่น Opti-Coat จากประเทศสหรัฐอเมริกา และน้ำยาเคลือบจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อไว้รองรับความต้องการของลูกค้าที่มีหลากหลาย

ที่ร้านจะมีผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการเคลือบมากกว่า 10 ปี ในการล้างรถ เคลือบสี เคลือบแก้วเก็บทุกรายละเอียด และเพราะความพิถีพิถันจึงรับเคลือบแก้วแค่ 2 คันต่อวันเท่านั้น

7.ร้านเคลือบแก้ว Lush Cardetailing

เป็นร้านเคลือบแก้วสำหรับรถยนต์งานดี มีคุณภาพ ทำโดยช่างที่ชำนาญมีประสบการณ์การทำงานมามากถึง 10 ปี และโดยรวมได้ทำการเคลือบแก้วไปมากกว่า 5,000 คัน

ทางร้านใช้งานเคลือบแก้วแบบ Ceramic Glass Coating 10H คัดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง นำเข้าตรงจากประเทศญี่ปุ่น ไว้วางใจได้เพราะมีใบ Certification จากโรงงานทุกล็อต  นอกจากนี้ยังได้อิมพอร์ตมาจาก USA

8.ร้านเคลือบแก้ว Wash A Matter

เป็นร้านที่มากประสบการณ์ในการดูแลรถ ล้างรถ และเคลือบสีรถมาอย่างยาวนาน เพราะเจ้าของร้านได้ศึกษาด้านการ Detailing ถึงสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ และได้รับ IDA Certificate จากสมาคม InternationalDetailing Association มาครอบครอง อีกทั้งเจ้าของร้านได้เป็นที่ปรึกษาให้กับร้านล้างรถชื่อดัง ๆ อีกหลายแห่ง ทุกวันนี้มีอยู่ 3 สาขา

ผลิตภัณฑ์ที่ร้านเลือกใช้ในการเคลือบแก้วเป็นของ Opti-Coat ที่มีคุณภาพระดับโลก และยังมีเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องขัดสีสำหรับเตรียมผิวก่อนเคลือบแก้วจากประเทศอิตาลี และ ออสเตรเลีย มีคุณสมบัติในการลดความร้อนสะสมบนผิวตัวถัง และกระทบต่อชั้นผิวสีน้อยที่สุด จึงไม่มีทางทำลายสีรถเดิม

มีการเตรียมห้องอินฟาเรดมาตรฐาน USA ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของเซรามิกให้คงทนและเซตตัวเองอย่างคงที่ทั่วทั้งคัน ซึ่งแตกต่างจากการใช้โคมอินฟาเรดมาจ่อที่ตัวรถเหมือนกับร้านทั่วไป

9.ร้านเคลือบแก้ว บ้านรักรถ Car Detailing

ร้านเคลือบแก้วสำหรับรถยนต์ ที่มากประสบการณ์กว่า 13 ปี มีบริการครอบคลุมไปตั้งแต่ เคลือบเซรามิกติดฟิล์มกันรอย PPF, ติดฟิล์มกันรอยรอบคัน ฯลฯ อีกทั้งทางร้านยังชอบให้ของแถมแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการเคลือบแก้วอีกด้วย

10.ร้านเคลือบแก้ว G2C

เป็นร้านที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเคลือบแก้ว และรับเฉพาะงานเคลือบแก้ว และงาน Show Car เท่านั้นโดยใช้น้ำยาและอุปกรณ์เคลือบแก้วจาก G2C ประเทศญี่ปุ่น ที่ร้านมีหลายแพ็คเกจหลายราคาไว้ให้เลือก

สรุป

เมื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับร้านเคลือบแก้วที่แนะนำไปบ้างแล้ว และโดยรวมในแต่ละร้านก็จะมีบริการล้างรถด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่นกัน การที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการร้านเคลือบแก้วร้านไหนนั้น เราอาจจะต้องดูปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้

• ราคา ตั้งอยู่บนพื้นฐานระดับเดียวกันของคุณภาพ น้ำยา ความหนา ความแข็ง
• น้ำยาเคลือบแก้วที่เลือกต้องสามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้ คุณภาพตรงตามปก
• การขัดปรับสภาพผิวรถยนต์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเงางาม คงทน ของสีรถยนต์
• ความน่าเชื่อถือของร้าน สถานที่ในเมือง / นอกเมือง ประสบการณ์ในการเคลือบแก้ว

เมื่อได้เปรียบเทียบร้านแต่ละร้านแล้ว ก็จะทำให้เลือกได้ว่าควรใช้บริการร้านไหนที่อยู่ในงบประมาณที่ได้เตรียมไว้